เคล็ด(ไม่)ลับกับงานครัว แนะหุงข้าวช่วยชาติ รับมือข้าวแพง วิทยากรรับเชิญ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฏาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และพิธีกรชื่อดังหลายรายการ แนะนำ "หุงข้าวช่วยชาติสู้กับยุคข้าวแพง" ในภาวะข้าวแพง หากลดปริมาณของข้าวลงและเพิ่ม ข้าวหุง กับ เผือก มัน ฟักทอง หรือ ธัญพืช ได้คุณค่าทางอาหารมากขึ้น
เคล็ดไม่(ลับ) การหุงข้าวกับเผื่อก มันและ ฟักทอง
วิธีทำ หั่น เผือก มัน และฟักทอง เป็นสีเหลี่ยม อย่าให้เล็กมาก ให้หุงไปพร้อมกับข้าวสาร ให้สุก ใส่เกลือป่นไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาดให้อร่อยขึ้น รับประทานกับอาหารได้หลายประเภท และยังมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นด้วย หรืออาจจะเปลี่ยนจากข้าวสารสีขาว มาเป็นข้าวกล้องแทนก็ยิ่งเพิ่มคุณค่าทางอาหารมากขึ้นไปอีก
เคล็ด(ไม่)ลับ การหุงข้าวกล้องกับธัญพืช
วิธีการหุง ข้าวธัญพืช นำบรรดาถั่วต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ฯลฯ ให้นำมาแช่น้ำอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรืออาจจะแช่น้ำค้างคืนไว้ แล้ว นำมาต้มให้สุกเล็กน้อย ลองนำมาบิดูอย่าให้เละ เมื่อเย็นให้นำไปผสมกับข้าวซาวน้ำเรียบร้อยพร้อมหุง คนให้เข้ากัน เหยาะเกลือป่นเล็กน้อย เมื่อข้าวสุกจะมีกลิ่นหอมมาก และยังได้คุณค่าทางอาหารมากขึ้น หรือบางท่านอาจจะอยากทำเป็นแบบข้าวมัน เช่น ข้าวมันกระเทียมกระเทียม ก็๋ให้บุบกระเทียมแกะเปลือกใส่ลงไปตอนหุงและใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยคนให้เข้ากัน เวลาสุกก็จะเป็นข้าวมันกระเทียมหอมกรุ่น รับประทานกับเนื้อไก่ฉีก แบบข้าวมันไก่ได้ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการกว่า อย่าลืมใส่เกลือเพื่อเพิ่มรสชาดให้อร่อยลิ้นมากขึ้น เมนูนี้อาจารย์ยิ่งศักดิ์ขอใช้ชื่อ "ข้าวหุงช่วยชาติ" เรามาหุงข้าวธัญพืชกันเถอะ เพื่อช่วยเกษตรกรและช่วยชาติ อีกทั้งยังได้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้นรับภาวะข้าวขึ้นราคา ลดปริมาณข้าว เพิ่มปริมาณธัญพืชแทน
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
29/3/54
อ่ยถึงอาหารแนวสุขภาพ ก็ต้องนึกถึง "ธัญพืช" เป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะ ธัญพืชเต็มเมล็ด หรือเรียกสั้นๆ ว่า โฮลเกรน ซึ่งเป็นธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือขัดสีน้อยที่สุด โดยยังคงมีส่วนประกอบ ทั้งเยื่อหุ้มเมล็ด, เนื้อเมล็ด และจมูกข้าว ครบถ้วนแบบนี้มีคุณค่าทางโภชนาการสุดๆ เพราะโฮลเกรน เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่อุดมไปด้วยเส้น ใยอาหาร, วิตามิน, แร่ธาตุ และไฟโตนิวเตรียนท์ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
การกินโฮลเกรนจึงส่งผลดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ "สง่า ดามาพงษ์" นักโภชนาการ ประจำกระทรวงสาธารณสุข ชี้ให้เห็นว่า โรคอ้วนและโรคข้างเคียง ซึ่งไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ, หลอดเลือด, ความดัน, เบาหวาน มีคนเป็นเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศตะวันตกและตะวันออก การใส่ใจเรื่องอาหารการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญ
อาหารแนวสุขภาพอย่าง "ธัญพืชเต็มเมล็ด" หาได้ไม่ยากใกล้ตัวที่สุดและดีที่สุดคือ "ข้าวกล้อง" นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีข้าวโอ๊ต, ข้าวบาร์เล่ย์, ซีเรียล,ขนมปัง และพาสต้า ที่ทำมาจากโฮลเกรน แบบไทยๆก็มีลูกเดือยและข้าวโพด
ส่วนหนุ่มสาวที่รักสวยรักงาม ถ้ากินอาหารแนวนี้จะได้ถึงสองเด้ง!!! คือนอกจากสุขภาพจะฟิตเปรี๊ยะแล้วยังได้ "หุ่น" อีกต่างหาก ใครที่ใช้วิธีลดความอ้วนแบบอดมื้อกินมื้อ ขอบอกว่า "เอาต์" แล้วจ้า
อยากสวยสดหุ่นดีต้องกินอาหารทุกมื้อ โดยเฉพาะ มื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่สุด ควรเลือกกินอาหารประเภทโฮลเกรน เพราะจะทำให้อยู่ท้อง ไม่รู้สึกโหย และพลังงานจะกระจายไปจนถึงมื้อเที่ยง พอถึงช่วงกลางวัน แค่ก๋วยเตี๋ยวสักชาม หรือข้าวราดแกงอร่อยๆ ก็อิ่มสบายท้องแล้ว จากนั้นเมื่อถึงมื้อเย็น ค่อยหาอะไรทานเบาๆ อย่างสลัด, ซุป หรือปลาย่าง จะช่วยให้หลับสบายไม่อึดอัดท้อง ส่วนเด็กๆกินอาหารประเภทนี้ ก็จะช่วยเสริมสร้างสมาธิ เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ทำให้ห่างจาก "โรคอ้วน" แน่นอน
"ยู อาร์ วอท ยู อีท" กินอย่างไรก็ได้รับอย่างนั้น ถ้าเลือกกินสิ่งที่อุดมไปด้วยโภชนาการอาหารก็จะเป็นยามหัศจรรย์ได้เช่นกัน!!!
ที่มา : http://women.thaiza.com/detail_87686.html
การกินโฮลเกรนจึงส่งผลดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ "สง่า ดามาพงษ์" นักโภชนาการ ประจำกระทรวงสาธารณสุข ชี้ให้เห็นว่า โรคอ้วนและโรคข้างเคียง ซึ่งไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ, หลอดเลือด, ความดัน, เบาหวาน มีคนเป็นเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศตะวันตกและตะวันออก การใส่ใจเรื่องอาหารการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญ
อาหารแนวสุขภาพอย่าง "ธัญพืชเต็มเมล็ด" หาได้ไม่ยากใกล้ตัวที่สุดและดีที่สุดคือ "ข้าวกล้อง" นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีข้าวโอ๊ต, ข้าวบาร์เล่ย์, ซีเรียล,ขนมปัง และพาสต้า ที่ทำมาจากโฮลเกรน แบบไทยๆก็มีลูกเดือยและข้าวโพด
ส่วนหนุ่มสาวที่รักสวยรักงาม ถ้ากินอาหารแนวนี้จะได้ถึงสองเด้ง!!! คือนอกจากสุขภาพจะฟิตเปรี๊ยะแล้วยังได้ "หุ่น" อีกต่างหาก ใครที่ใช้วิธีลดความอ้วนแบบอดมื้อกินมื้อ ขอบอกว่า "เอาต์" แล้วจ้า
อยากสวยสดหุ่นดีต้องกินอาหารทุกมื้อ โดยเฉพาะ มื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่สุด ควรเลือกกินอาหารประเภทโฮลเกรน เพราะจะทำให้อยู่ท้อง ไม่รู้สึกโหย และพลังงานจะกระจายไปจนถึงมื้อเที่ยง พอถึงช่วงกลางวัน แค่ก๋วยเตี๋ยวสักชาม หรือข้าวราดแกงอร่อยๆ ก็อิ่มสบายท้องแล้ว จากนั้นเมื่อถึงมื้อเย็น ค่อยหาอะไรทานเบาๆ อย่างสลัด, ซุป หรือปลาย่าง จะช่วยให้หลับสบายไม่อึดอัดท้อง ส่วนเด็กๆกินอาหารประเภทนี้ ก็จะช่วยเสริมสร้างสมาธิ เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ทำให้ห่างจาก "โรคอ้วน" แน่นอน
"ยู อาร์ วอท ยู อีท" กินอย่างไรก็ได้รับอย่างนั้น ถ้าเลือกกินสิ่งที่อุดมไปด้วยโภชนาการอาหารก็จะเป็นยามหัศจรรย์ได้เช่นกัน!!!
ที่มา : http://women.thaiza.com/detail_87686.html
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ทางเลือกใหม่ ไม่ต้องผ่าตัด
หากเอกซเรย์ด้วยแม่เหล็ก MRI หมอจะบอกว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน เป็นกระดูกสันหลังปล้องที่ 4 ปล้องที่ 5 ต้องผ่าตัด ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวขาจะลีบ เรื่องใหญ่ละทีนี้ ทำยังไงดี
ผศ.นพจิรเดช ตุงคะเศรณี ศัลยกรรมแพทย์กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ กระดูกสันหลังและข้อเทียม เปิดเผยว่า ด้วยเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของการแพทย์ทันสมัย ขอยืนยันว่า เรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องผ่าตัดนั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่ของสมัยนี้อีกต่อไป เพราะมีแนวทางการรักษาเฉพาะที่ด้วยการใช้ยา ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ไม่ต้องผ่าตัดด้วย
โดยเฉพาะหมอนรองกระดูกสันหลัง เพิ่งจะเป็น หรือมีอาการไม่นาน การให้ยาไปยังตำแหน่งที่มีการอักเสบของเส้นประสาท อันเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนไปทับ หากให้ยาตรงไปยังตำแหน่งที่เป็นใจกลางของบริเวณที่มีปัญหาเหมือนดังจะยิงลูกศรเข้าไป หากตรงเป้า ตรงตำแหน่ง บริเวณที่มีอาการอักเสบ ฤทธิ์ของยาจะระงับการอักเสบ
ทางการแพทย์ที่ยอมรับกัน เรียกว่า การฉีดยาระงับการอักเสบเข้าไปในช่องสันหลังว่ากันว่าจะเป็นการให้ทางเลือกใหม่อีกทาง ก่อนการตัดสินใจใช้วิธีการผ่าตัดหมอนรองกระดูก
ปัจจุบัน หากมีผู้เข้ารับคำปรึกษาและใช้วิธีนี้ อาการปวดจะทุเลาลงกว่า 70% ในจำนวนหนึ่งร้อยคน อาจจะต้องตัดสินใจทำการผ่าตัดเพียงสองคนเท่านั้น
ทางเลือกโดยวิธีนี้ ก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 5-10 นาที ก็กลับบ้านได้ ขับรถได้ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่สิ้นเปลือง การฉีดก็ไม่เจ็บปวด แต่ผู้ที่เจ็บด้วยโรคนี้ ต้องปรับท่าทางการใช้หลังใหม่ ให้ถูกท่า ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อหลัง กลับจากโรงพยาบาลต้องจัด Office ใหม่ ปรับท่านั่งใหม่ ไม่นั่งนาน ลุกจากที่นั่งบ่อยๆ
หมอนรองกระดูกจะได้รับใช้ร่างกายไปอีกนาน
ผศ.นพจิรเดช ตุงคะเศรณี ศัลยกรรมแพทย์กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ กระดูกสันหลังและข้อเทียม เปิดเผยว่า ด้วยเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของการแพทย์ทันสมัย ขอยืนยันว่า เรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องผ่าตัดนั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่ของสมัยนี้อีกต่อไป เพราะมีแนวทางการรักษาเฉพาะที่ด้วยการใช้ยา ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ไม่ต้องผ่าตัดด้วย
โดยเฉพาะหมอนรองกระดูกสันหลัง เพิ่งจะเป็น หรือมีอาการไม่นาน การให้ยาไปยังตำแหน่งที่มีการอักเสบของเส้นประสาท อันเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนไปทับ หากให้ยาตรงไปยังตำแหน่งที่เป็นใจกลางของบริเวณที่มีปัญหาเหมือนดังจะยิงลูกศรเข้าไป หากตรงเป้า ตรงตำแหน่ง บริเวณที่มีอาการอักเสบ ฤทธิ์ของยาจะระงับการอักเสบ
ทางการแพทย์ที่ยอมรับกัน เรียกว่า การฉีดยาระงับการอักเสบเข้าไปในช่องสันหลังว่ากันว่าจะเป็นการให้ทางเลือกใหม่อีกทาง ก่อนการตัดสินใจใช้วิธีการผ่าตัดหมอนรองกระดูก
ปัจจุบัน หากมีผู้เข้ารับคำปรึกษาและใช้วิธีนี้ อาการปวดจะทุเลาลงกว่า 70% ในจำนวนหนึ่งร้อยคน อาจจะต้องตัดสินใจทำการผ่าตัดเพียงสองคนเท่านั้น
ทางเลือกโดยวิธีนี้ ก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 5-10 นาที ก็กลับบ้านได้ ขับรถได้ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่สิ้นเปลือง การฉีดก็ไม่เจ็บปวด แต่ผู้ที่เจ็บด้วยโรคนี้ ต้องปรับท่าทางการใช้หลังใหม่ ให้ถูกท่า ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อหลัง กลับจากโรงพยาบาลต้องจัด Office ใหม่ ปรับท่านั่งใหม่ ไม่นั่งนาน ลุกจากที่นั่งบ่อยๆ
หมอนรองกระดูกจะได้รับใช้ร่างกายไปอีกนาน
ชวนคิด....? 1. เราอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ไหม 2. ถ้ารู้สึกว่ามีอาการคล้ายกับที่อ่านมานี้ จะทำอย่างไรดี 3. อืม...แล้วเราควรจะดูแลตนเองอย่างไรบ้าง เพื่อป้องกันหรือรักษาโรคนี้ |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)